หลากเหตุผลที่คุณควรและไม่ควรซื้อ
iPhone 5S
ยังคงได้รับความสนใจจากทั่วโลกเช่นเคย สำหรับการเปิดตัวของ iPhone 5S ที่สาวกแอปเปิลเพิ่งจะได้ยลโฉมตัวเครื่องกันแบบชัด ๆเต็ม ๆ กันเมื่อวานนี้ และแน่นอนว่า เมื่อเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก เพราะมีคนมากมายกำลังคิดพิจารณาจะจับจองเป็นเจ้าของกันอยู่ ก็ย่อมมีบทความเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของ iPhone รุ่นใหม่นี้ออกมาให้อ่านเช่นเคย
เหตุผลที่ควรซื้อ iPnone 5S
1. ชิปประมวลผลแรงกว่าเดิม เพราะใช้ชิป Apple A7 (28nm) ที่เป็นระบบ 64-bit ตัวแรกของโลก ที่มีความเร็วกว่า iPhone ทุกรุ่นถึง40 เท่า ทำให้สามารถเล่นเกมหนัก ๆ ได้อย่างสบาย ไม่มีติดขัด
2. กล้องที่มีประสิทธิภาพและลูกเล่นมากกว่าเดิม iPhone 5S มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของกล้องให้สามารถถ่ายภาพในที่มืดได้ดีขึ้น อย่างกล้องด้านหลังมีการปรับรูรับแสงจากเดิมกว้าง f/2.4 มาเป็น f/2.2 (ค่า f ยิ่งน้อย ภาพยิ่งสว่าง) พร้อมระบบ auto image stabilization แก้ปัญหาภาพสั่นไหว นอกจากนี้ยังเพิ่มแฟลชคู่ช่วยในเรื่องของแสงแฟลช ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนหรือในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้นกว่าเดิม
3. มีสีทองและสีเงิน ทำให้ตัวเครื่องดูหรู ข้อนี้เอาใจคนที่ซีเรียสเรื่องดีไซน์และความหรูหราได้ดีเลยทีเดียว
เหตุผลที่ไม่ควรซื้อ iPnone 5S
1. โดยรวมแล้วสเปคดีขึ้นเพียงนิดหน่อย หากคุณมี iPhone 5 ในครอบครองอยู่แล้ว การซื้อ iPhone 5C จะเป็นสิ่งที่ไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะไม่ได้ต่างกัน ส่วนถ้าจะซื้อ iPhone 5S นั้น ก็ต้องคิดดูอีกครั้ง เพราะมันเหมือนกับการซื้อ iPhone 4S มาแทน iPhone 4 กล่าวคือ คุณสมบัติเด่น ๆ ที่มีใน iPhone 5S นั้น ไม่ใช่คุณสมบัติที่จำเป็นต้องมีสักเท่าไหร่ และที่สำคัญราคาของ iPhone 5S (ราคาเครื่องเปล่า ไม่ติดสัญญา) ถือว่าแพงกว่า iPhone รุ่นก่อน ๆ อยู่พอสมควร
2. การประมวลผลแบบ 64-bit ไม่มีความหมายอะไรเลย เนื่องจากหน่วยประมวลแบบ 64-bit นั้นจะช่วยให้แอพฯ ต่าง ๆ สามารถใช้งานหน่วยความจำของเครื่องเพื่อช่วยในการประมวลผลได้มากกว่าเดิม แต่ผู้พัฒนาแอพฯ นั้น ๆ จะต้องพัฒนามาให้รองรับ 64-bit ด้วย จึงจะสามารถแสดงประสิทธิภาพของ 64-bit ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีแอพฯ มารองรับมากเท่าไหร่ จึงยังเป็นเหมือนสิ่งที่ออกมาเพื่อรองรับอนาคตมากกว่า
3. แบตเตอรี่ที่อึดขึ้น แต่ก็ยังถือว่าพอ ๆ กับ iPhone 5 ถึงแม้ว่าหน่วยประมวลผล A7 ของ iPhone 5S จะประมวลผลได้เร็วขึ้นโดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่มากกว่าเดิม แต่เมื่อเทียบอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งกับ iPhone 5 แล้วก็ถือว่าอยู่ในระดับที่เท่า ๆ กัน
4. ระบบสแกนลายนิ้วมือไม่ใช่ระบบป้องกันที่จำเป็น เนื่องจากการปลดล็อกเครื่องด้วยการสแกนลายนิ้วมือนั้นไม่ได้ช่วยให้มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นจากการพิมพ์รหัสมากเท่าไหร่นัก เพราะลายนิ้วมือเป็นสิ่งที่ผู้ใช้สามารถทิ้งไว้บนสิ่งของต่าง ๆ ที่เคยสัมผัสอยู่แล้ว และยังคงสามารถแฮ็กได้ และถึงแม้ว่ามันจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการปลดล็อกเครื่องมากกว่าการพิมพ์รหัสก็ตาม แต่หากคุณคิดจะซื้อ iPhone 5Sเพื่อต้องการใช้งานระบบนี้เท่านั้นก็คงจะไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่นัก
